วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

5 ที่พักเกาะเสม็ด ระยอง

ที่พักเกาะเสม็ด ตั้งอยู่ติดทะเลแต่คนไม่พลุกพล่าน ส่วนตัวแบบหรูๆ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในที่พัก หากใครกำลังมองหาที่พักแบบนี้อยู่ แนะนำ 5 รีสอร์

1. ปารดี รีสอร์ท แอนด์ สปา เกาะเสม็ด


                รีสอร์ทระดับห้าดาวแห่ง นี้ตั้งอยู่บนหาดเงียบสงบสุดหรู ที่อ่าวกิ่ว เป็นรีสอร์ทที่พิเศษสร้างขึ้นมาเป็นเหมือนสวรรค์ให้คนได้มาพักผ่อนกัน หาดทรายมีความขาวสะอาดและสวยงาม รีสอร์ทถูกล้อมรอบไปด้วยป่าเขตร้อนเขียวชอุ่ม เสมือนบรรยากาศที่อบอุ่น มีสิ่งอำนวยความสะดวกสุดหรู สามารถผ่อนคลายไปกับการว่ายน้ำและมีกิจกรรมไว้รอต้อนรับอีกมากมาย ถ้าอยากได้ความประทับใจ ปารดีมีสวรรค์แห่งความเงียบสงบริมชายหาดที่หรูหราสำหรับผู้เข้าพักทุกท่าน
 


2. เลอวิมาน คอทเทจ แอนด์ สปา เกาะเสม็ด

 

           รีสอร์ทสวรรค์แห่งนี้ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวัน ตกเฉียงเหนือที่แสนจะเงียบสงบของเกาะเสม็ด สร้างขึ้นบนบนเนินเขาเป็นเสมือนหมู่บ้านบนเนินเขา เป็นบูติครีสอร์ทสุดหรูริมชายหาดที่ออกแบบมาเพื่อพักผ่อนและให้ความรู้สึก ส่วนตัวมากที่สุด รวมถึงมีสระว่ายน้ำที่สร้างขึ้นมาลงตัวกับธรรมชาติ มีบริการนวดสปาริมชายหาด นอกจากนี้คุณจะได้ชมความงดงามของชายหาดและเพลิดเพลินกับกีฬาทางน้ำอีกด้วย




3. อ่าวพร้าว รีสอร์ท เกาะเสม็ด

 

            รีสอร์ทแห่งนี้ตกแต่งสไตล์บูติค ออกแบบให้เหมือนบ้านแบบไทยเดิม เน้นความเรียบง่ายแต่ลงตัวตามธรรมชาติ ตั้งอยู่สุดชายหาดบนอ่าวพร้าวที่มีความเงียบสงบติดชายหาด นอกจากนี้คุณยังสามารเพลิดเพลินไปกับกีฬาทางน้ำอีกมากมายรวมถึงกิจกรรมบนชาย หาดอีกด้วย

 


4. ทรายแก้ว บีช รีสอร์ท เกาะเสม็ด



        รีสอร์ทนี้นี้ตั้งอยู่บนหาดทรายแก้ว หาดทรายขาวบริสุทธิ์และเป็นชายหาดที่นิยมมากที่สุดของเกาะเสม็ด รีสอร์ทนี้แบ่งออกเป็น 3 โซน วิลล่าของที่นี่ยังมีสระว่ายน้ำที่หรูหรา ที่นี่ยังมีการออกแบบที่ทันสมัยลงตัวกับธรรมชาติและมีความเป็นส่วนตัวสูงสุด เหมือนเป็นการมาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติและเพลิดเพลินไปกับสวรรค์บนชายหาด แห่งนี้
 


5. เสม็ดคลับ รีสอร์ท เกาะเสม็ด

     
       รีสอร์ตนี้ตั้งอยู่บนอ่าวน้อยหน่า อ่าวเล็กๆ ที่แสนสงบ ถ้าใครชอบแบบสงบจริงๆ ที่นี่ตั้งอยู่บนเขา รายล้อมไปด้วยต้นไม้ใบหญ้า และหันหน้าออกหาหาดทรายที่เงียบ สงบ ห้องพักมีทั้งแบบวิวทะเล วิวสวนและวิวภูเขา ทุกคนจะได้เพลิดเพลินไปกับการว่ายน้ำทะเลหรือสระว่ายน้ำ สามารถเล่นกีฬาชายหาดได้อีกด้วย



วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

เทรนด์กระเป๋า 2016 อัพเดทก่อนใคร

เทรนด์กระเป๋า 2016
        
          เทรนด์กระเป๋า 2016 ถือสวย ๆ ปีนี้ ไม่มีคำว่าเอาท์แน่นอน เพราะแต่ละแบบส่งตรงจากรันเวย์ทั้งนั้นเลยจ้า

          ผู้หญิงกับกระเป๋าเกิดมาเป็นของคู่กันอยู่แล้ว แต่ถ้าจะให้ดี สาว ๆ ต้องถือกระเป๋าแบบที่อินเทรนด์ ถือแล้วไม่เชย จะช่วยทำให้คุณเป็นสาวสวยเก๋ที่น่ามองมากยิ่งขึ้นค่ะ ว่าแต่ปีนี้กระเป๋าแบบไหน สีไหน ที่กำลังมาแรง ชนิดที่เรียกว่าต้องมีให้ได้บ้าง วันนี้กระปุกดอทคอมชวนมาอัพเดทเทรนด์กระเป๋าประจำปีนี้กัน บอกเลยว่าเด็ดดวงทุกใบ ต้องมีไว้ถึงจะอินเทรนด์

เทรนด์กระเป๋า 2016

กระเป๋าถือสายสั้น

          เก็บ สายยาวไว้ที่บ้านก่อน เพราะเทรนด์นี้กระเป๋าถือสายสั้นเท่านั้นที่มาแรง เวลาถือแล้วได้ลุคมั่น ๆ หรือจะคล้องแขนให้ได้ลุคคุณนายสุดไฮโซก็ได้

เทรนด์กระเป๋า 2016

กระเป๋าฟริงจน์

          งานริ้วกรุยกรายแบบนี้ก็ยังฮอตฉ่าไม่หยุดยั้งจ้า ยิ่งถือกระเป๋าฟริงจน์เดินถนน ในวันที่อากาศดี ๆ ลมพัดเบา ๆ ให้พู่สะบัดอย่างมีชีวิตชีวานะ ยิ่งเริด !

เทรนด์กระเป๋า 2016

กระเป๋าหนังกลับ

          ไม่เพียงแต่เสื้อคลุมหรือกระโปรงหนังกลับ จะเป็นไอเทมฮิตในปีนี้แล้ว แต่กระเป๋าหนังกลับสวย ๆ แบบนี้แหละมาแรงแน่นอนจ้า

เทรนด์กระเป๋า 2016

กระเป๋าที่แต่งด้วยของประดับ


          ใครไม่ชอบกระเป๋าเรียบ ๆ เตรียมเฮได้ เพราะกระเป๋าตกแต่งด้วยของประดับ เช่น หมุด อัญมณี อะไรพวกนี้แหละ ถือแล้วอินเทรนด์สุด ๆ ในปีนี้เลย

เทรนด์กระเป๋า 2016

กระเป๋าดีไซน์แนว ๆ

          เอาใจ สาวชอบความแปลกไม่เหมือนใครกันหน่อย ปีนี้เอาให้สุดกับกระเป๋าใบโปรดไปเลย ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าทรงแปลกไม่เหมือนชาวบ้านแค่ไหน ก็ถือออกมาอย่าไปแคร์เวิลด์ มันกำลังมาแรงพูดเลย !

เทรนด์กระเป๋า 2016

กระเป๋าสายโซ่

          สาวเทรนดี้ต้องมีให้ได้นะจ๊ะ เพราะปีนี้กระเป๋าสายหนังธรรมดาดูเรียบไปแล้ว ต้องกระเป๋าสายโซ่เก๋ไก๋สไลเดอร์แบบนี้เท่านั้นที่คุณคู่ควร

เทรนด์กระเป๋า 2016

กระเป๋าทรงกล่องสี่เหลี่ยม
          ถึง จะดูเหมือนใส่ข้าวของได้ไม่เยอะ แต่กระเป๋าทรงนี้ใครถือก็ดูดีมีสไตล์ทั้งนั้น วันไหนอยากพกแค่เงิน บัตรเครดิต กุญแจรถ และมือถือ ก็จัดไปสวย ๆ กับทรงนี้เลย

เทรนด์กระเป๋า 2016

กระเป๋าทรงพระจันทร์เสี้ยว

          เอาจริง ๆ คือรูปทรงของกระเป๋านี่แหละที่ชิคสะดุดตาเว่อร์ ปีนี้ใครมีไว้รับรองว่าอินเทรนด์ได้อีก แถมยังไม่ค่อยเหมือนใครด้วยนะ เอ้า ... รีบจัดเลย

เทรนด์กระเป๋า 2016

กระเป๋าเป้

          สาว คนไหนชอบแนวสบาย ๆ สไตล์บอย ๆ ละก็ คงเลิฟการสะพายกระเป๋าเป้มากเลยใช่ไหมล่ะ เพราะใส่ของได้เยอะ แถมยังไม่ต้องถือให้เมื่อยมือเมื่อยแขนด้วย ปีนี้มาแรงจริงอะไรจริงค่ะ ไม่ต้องรอไปเที่ยวก็สบายได้ทุกวันเลย

เครดิต http://women.kapook.com/view143270.html

วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

            
       ถ้าพูดถึงบุฟเฟต์ช่วงนี้คงหนีไม่พ้นบุฟเฟต์ปิ้งย่างอาหารทะเล มาให้เพื่อน ๆ ได้เลือกแวะไปลิ้มรสอร่อยกันแล้ว วันนี้ก็เป็นคิวทองที่คัดเน้น ๆ กับ 5 ร้านซีฟู้ดปิ้งย่าง กันบ้าง ด้วยเมนูอาหารทะเลแบบสด ๆ ทั้งกุ้ง, หอย, ปู, ปลา เป็นต้น พูดถึงขนาดนี้หลายคนคงเตรียมพร้อมอยากจะไปฟินกันเลย !!!



1.Grill Yard



        Grill Yard ร้านซีฟู้ดปิ้งย่างบรรยากาศดีได้อารมณ์เหมือนนั่งชิลอยู่หลังบ้าน ที่รายล้อมไปด้วยสวนสวย ส่วนเมนูอาหารของร้านก็มั่นใจได้เลยว่าสดและใหม่เสมอ เพราะนำส่งตรงจากจังหวัดสมุทรสาครทุกวัน แบ่งออกเป็นชุดให้เลือกทั้ง Small Bucket (S) กุ้งก้ามกราม, ปลาหมึก, หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์, หอยหวาน, หอยแครง, หอยเชลล์ และหอยหลอด ราคา 399 บาท Middie Bucket (M) กุ้งก้ามกราม, ปลาหมึก, ปูม้า, กุ้งลายเสือ, หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์, หอยหวาน, หอยแครง, หอยเชลล์ และหอยหลอด ราคา 699 บาท และ Big Bucket (L) กุ้งมังกร, กุ้งก้ามกราม, ปลาหมึก, ปูม้า, กุ้งลายเสือ, หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์, หอยหวาน, หอยแครง, หอยเชลล์ และหอยหลอด
        นอกจากนี้ยังสามารถสั่งแบบ a la carte ได้ ซึ่งไฮไลท์ของร้านอยู่ที่กุ้งมังกรตัวละ 300 บาท ทานคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ดที่มีให้เลือกทั้งแบบเผ็ดและแบบหวาน พร้อมกับเครื่องดื่มอย่างน้ำอัดลมและเบียร์ต่างประเทศหลากหลายยี่ห้อให้ได้เลือกดื่มกันแบบสบาย ๆ  

         ราคา : สอบถามโดยตรงจากร้านอาหาร
         เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 16.00-24.00 น. 
         ที่อยู่ : ลาดพร้าว 71 เยื้องกับนาคนิวาสซอย 1 กรุงเทพฯ
         โทรศัพท์ : 09 5575 4545

         เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Grill Yard  



2.The Mud 26

            ร้านซีฟู้ดปิ้งย่างบรรยากาศสบายสไตล์เอาท์ดอร์แบบชิค ๆ ตัวร้านออกแบบด้วยสังกะสีสีดำ ส่วนลานกว้างด้านข้างจัดเป็นโซนที่นั่งสำหรับปิ้งย่าง รายล้อมด้วยไม้ประดับสีเขียวให้ความรู้สึกสดชื่น และในเวลากลางคืนจะเปิดไฟสีส้มที่ห้อยเป็นสายอยู่บนศีรษะ ได้บรรยากาศโรแมนติกไปอีกแบบ ส่วนเมนูของร้านก็เน้นวัตถุดิบใหม่และสด ทั้งกุ้งก้ามกราม, ปลาหมึก, ปลาแซลมอน, หอยนางรม, หอยเชลล์จากญี่ปุ่น, หอยแมลงภู่จากนิวซีแลนด์, หอยแครง และหอยหลอด มีให้สั่งเป็นเซต คือ 399 บาท, 699 บาท และ 999 บาท ซึ่งทางร้านมีสลับเปลี่ยนเมนูพิเศษทุกวัน พร้อมด้วยเซตผัก ราคา 60 และ 120 บาท ประกอบด้วยเห็ดออรินจิ, เห็ดฟาง, ข้าวโพด, มันเทศ, ฟักทอง, และหน่อไม้ฝรั่ง นอกจากนี้ยังบริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไซเดอร์ผลไม้ให้เลือกจิบระหว่างทานปิ้งย่างได้อีกด้วย

         ราคา : สอบถามโดยตรงจากร้านอาหาร 
         เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 18.00–23.00 น.
         ที่อยู่ : 32 ซอยลาดพร้าว 26 (ใกล้รถไฟฟ้า MRT ลาดพร้าว) แยก 2-1 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
         โทรศัพท์ : 08 1822 1143
         เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก The Mud 26 



3.A.T. บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ด



          ร้านซีฟู้ดปิ้งย่างและอาหารญี่ปุ่นแบบบุฟเฟ่ต์ย่านนวมินทร์ 87 ในบรรยากาศแบบเป็นกันเอง บริการปิ้งย่างแบบเตาถ่าน แบ่งโซนที่นั่งเป็นสัดส่วน โดยมีอาหารทะเลแนะนำ ได้แก่ กุ้งก้ามกราม, ปลาหมึก, หอยแมลงภู่, หอยหวาน, หอยแครง, กั้ง, ปูทะเล และเอ็นหอย พร้อมด้วยผักและเห็ดสดมากมาย พร้อมบริการเขียง กรรไกร และที่คีบให้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเมนูพร้อมทาน, ผลไม้ และเครื่องดื่มเติมได้ไม่อั้นอย่างเบียร์, ไวน์, น้ำพันซ์, น้ำตาลสด, น้ำอัดลม หรือชาเขียวรสชาติต่าง ๆ 

         ราคา : 399 บาท/net ต่อคน (เด็กสูงไม่เกิน 140 ราคา 149 บาท และเด็กสูงไม่เกิน 100 เซนติเมตร ทานฟรี) ทานได้ 1 ชั่วโมง 45 นาที ต่อเวลาเพิ่ม 30 นาที คิดเพิ่ม 149 บาท/คน และเกิน 1 นาที คิดเป็น 30 นาที 
         เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 16.00-01.00 น.  
         ที่อยู่ : ซอยนวมินทร์ 87 ถนนนวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ
         โทรศัพท์ : 08 6991 8100
         เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก A.t.บุฟเฟ่ต์ ซีฟู้ด 

4.So Seafood



           ร้านอาหารบรรยากาศโปร่ง ๆ ย่านซอยรามคำแหง ที่บริการอาหารทะเลสดใหม่ส่งตรงจากทะเลทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นกุ้งก้ามกราม, หอยหวาน, หอยเชลล์, หอยตลับ, หอยแมลงภู่, หอยหลอด, ปูลายเสือ, ปูม้า, กั้งกระดาน, กั้งแก้ว, ปลาหมึกไข่, ปลาหมึกกระดอง, ปลาแซลมอน, ปลาดอลลี่ รวมทั้งหมูและผัก และเมนูพร้อมทานอย่างเมนูไก่ทอด, ข้าวผัด และผลไม้ล้างปาก อีกทั้งยังมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งเบียร์, ค็อกเทล และน้ำอัดลม-น้ำเปล่า ที่มีให้เติมแบบไม่อั้นด้วย 
    
         ราคา : 399 บาท/คน ทานได้ 1 ชั่วโมง 45 นาที 
         เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 17.00-23.00 น. (เปิดบริการ 3 รอบ ได้แก่ รอบแรก เวลา 17.00-18.45 น., รอบสอง เวลา 19.15-21.00 น. และรอบสุดท้าย เวลา 21.30-23.15 น.)
         ที่อยู่ : ซอยรามคำแหง 65 ถนนรามคำแหง แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 
         โทรศัพท์ : 08 2169 9993
         เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก So Seafood 


5.Mr. Seafood 


                 ร้าน Mr. Seafood ตั้งอยู่ย่านหลังศูนย์อาหารมหาวิทยาลัยรามคำแหง ซอยรามคำแหง 127 ตัวร้านเป็นเพิงสูง ๆ ออกแบบให้โปร่งโล่งเหมาะสำหรับเมนูปิ้งย่าง บริการอาหารบุฟเฟ่ต์ทะเลเผาแบบเกรด A ส่วนเมนูอาหารทะเลแนะนำของร้าน ได้แก่ ปูม้า, กุ้งก้ามกราม, กั้ง, หอยไม้ไผ่, หอยชักตีน, หอยหมาก, หอยแมลงภู่, หอยเชลล์, แซลมอน, ปลาหมึกกล้วย, ปลาหมึกอาเจน, ปลาหมึกไข่ และปลาหมึกกระดอง พร้อมบริการเขียงสำหรับหั่นของดิบ นอกจากนี้ยังมีเมนูหมู ,ไก่, ไส้กรอก, หมูยอ และผักชนิดต่าง ๆ ไว้บริการ แถมพร้อมเครื่องดื่มที่เติมได้แบบไม่อั้น ทั้งเหล้าและเบียร์ให้ได้จิบแบบฟิน ๆ ไปกับการทานอาหารทะเลได้เป็นอย่างดี 

         ราคา : 399 บาท (เด็กสูงไม่เกิน 100 เซนติเมตร ทานฟรี และเด็กสูงไม่เกิน 130 เซนติเมตร ราคา 249 บาท) ทานได้ 1 ชั่วโมง 30 นาที 

         เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวันเวลา 17.00-23.00 น. (เปิดบริการทั้งหมด 3 รอบ ได้แก่ รอบแรกเวลา 17.30-19.00 น., รอบที่สอง เวลา 19.30-21.00 น. และรอบสุดท้าย เวลา 21.00-22.30 น.)

         ที่อยู่ : ซอยรามคำแหง 127 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 

         โทรศัพท์ : 08 9668 8821 (จองได้ตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น.)

         เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Mr.Seafood